วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

EP 3 ♡ ลมเพชรหึง

EP 3  ♡ ลมเพชรหึง
  
               “พี่มาร์คคค!!”เสียงที่ผมคุ้นเคยดังมาจากทางด้านหลังขณะที่ผมกำลังนั่งผ่อนคลายกันอยู่ใต้ตึกคณะ ก่อนจะมีร่างเล็กๆกับหัวสีเขียวมิ้นท์ เข้ามากอดผมเต็มรัก
                “แบมแบมมึงไม่ต้องคิดถึงกูขนาดนั้น”ผมดันหน้ามันออกไปจากซอกคอ สยิว โว้ยยย

               “ไม่คิดถึงได้ไงไม่ได้เจอกันตั้งสามสี่วัน  รู้ไหมวันนี้วันอะไร?”ผมละเกลียดใบหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อของมันจริงๆครับ น่าถีบซั๊ด
              
               “วันศุกร์”ผมตอบมัน

               “อุ้ย! เก่งจัง มาๆเกาคางหน่อย”ผมยืนคางไปให้มันเกาอย่างว่าง่าย

               “ถุย! เดี๋ยวถีบ มีอะไรว่ามา ขอเนื้อๆน้ำไม่เน้น”

               “อ่า เย็นนี้จะมีพ้าดี้ (ปาร์ตี้) วันเกิดพี่ชานยอล พี่คริสให้มาบอก”มันยอมเข้าประเด็นสักที จะเนื้อจากมันเนี่ยต้องแก้ผ้างม แม่ง โคตรไร้สาระ ไม่เหมือนพี่รหัสมัน ฮ่าๆ

               “มึงนี้ดีเน๊าะ เป็นน้องรหัสกูหรือพี่ชายกูกันแน่”ผมดึงแก้มยุ้ยๆของมันด้วยความหมั่นเขี้ยว งื้มมมม

               “หึงอ๋อ ไม่ต้องหึงนะ ยังไงแบมแบ๊มของเป็นน้องรักของพี่มาร์คคนเดียว”แบมแบมทั้งกอดทั้งหอมทั้งซบ จนผมเริ่มจะรำคาญ นี้มึงเป็นคนหรือเป็นปลาหมึกวะเนี่ย

               “หึงมึง หึงคุณแดงดีกว่า”ผมเสหน้าไปทางคุณแดงที่ยืนกินลูกชิ้นอยู่หน้าตึก

               “หึ้ย! คุณแดงมันดีกว่าแบมแบมตรงไหน สีผมก็แซ่บไม่เท่า”ไอ้แบมแบมสะบัดหน้าหนีผม

               “เออๆ เรื่องของมึงเห๊อะ แล้วนี้ไม่มีเรียนไง๊”ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนมันจะพาผมล่องเรือพาคุณแดงออกนอกทะเลไป

               “โน่วๆ ไม่เข้าเรียน พี่มาร์คช่วงนี้อะมีพวกโรคจิตไลน์มาหาด้วย”แบมแบมพูดด้วยใบหน้าตื่นๆพยายามสร้างบรรยากาศในการเล่า แต่เดี๋ยวนี้มึงโดดเรียนสินะ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ น้องกู

               “มีใครโรคจิตกว่ามึงอีกอ๋อ”

               “ก็พี่ไง ถุยยย!! จริงๆนะพี่! เดี๋ยวเอาให้ดูเลย”มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้ผมดู

               มันคุ้นแหะไอ้โรคจิตที่มันว่า พอผมกดดูรูปประจำตัวเท่านั้นแหละครับ


               ผมนี่อึ้งไปเลย

               ไอ้ยูคยอม ! ไอ้หรรม มึงจับน้องรหัสกู๊ววว!!

               “โคตรจิตอะพี่ ชอบถามว่าไปไหนทำอะไรงี้ แบบโคตรหลอน”เดี๋ยวๆ ว่าแต่ ไปไหนทำอะไร มันจิตตรงไหนวะ

               “แต่ว่าเขาก็หล่อดีนะ”แบมแบมบิดตัวไปมาด้วยความเขิน กับใบหน้าหล่อๆของคนในรูป
               “แล้วมึงจะกลัวเขาเพื่อ!!

               “กลัวเดะ! เกิดมายังไม่เคยมีใครมาจีบเลย แล้วไอ้หมอนี้เป็นใครก็ไม่รู้”
               “คิมยูคยอม เรียนถาปัตเพื่อนกูเอง”

               “ห่ะ! เอาจริงดิพี่!”ตามันโตเท่าไข่ห่านแล้วครับ ดูมันจะช๊อคมากที่รู้ว่าไอ้ที่มันบอกว่าหล่อ หลอน จิต เนี่ยเพื่อนสนิทผมเอง

               “เออ มึงก็ยอมๆมันไปเหอะ เด็ดนะเว้ย”ผมทำหน้าขึงขังพร้อมกับยกนิ้วเชียร์เพื่อนตัวเอง เพราะเท่าที่รู้มาจากไอ้เจียว่าคนที่ไอ้ยูคกำลังจีบอยู่ตอนนี้มันค่อนข้างจริงจัง

               “นี่ไม่ง่ายนะ!”จะเสียงดังไมวะ

               “ง่ายๆไปเหอะ เหมือนพี่มึงไง”ปากหมาๆแบบนี้มีคนเดียว ไอ้เชี่ยบี!
               “ง่ายพ่อง หายหัวไปไหนมาวะ”ไอ้บีหัวเราะเบี่ยงตัวหลบอย่างลบที่ผมปาใส่มัน

               “ไปส่งจูเนียร์ที่คณะมา หูกูยังชาอยู่เลยเนี่ย แดกป่ะ”ไอ้บีวางกล้วยสองลูกลงบนโต๊ะ คงโดนจูเนียร์บังคับให้เอามากินรองท้องอีกเป็นแน่แท้
              

               “ไม่เอาอะ ขี้เกียจถอดรี”ผมส่ายหน้า ขี้เกียจหาที่เก็บเครื่องดักไข้มันในปาก

               “พี่เงิง หวัดดีฮะ”แบมแบมเอ่ยทักเจบีหลังรอให้เพื่อนรักเขาทักทายกันจบ
               “เอ่อ ! ไหว้พ่อเถอะลูก ถุยยย! ใครสอนให้เรียกวะ”

               “โนๆ นี้โตแล้ว คิดเองด๊าย”ผมขำกับท่าทางของไอ้แบม มันเป็นเด็กที่มีจริตจะก้านเยอะมากครับ มันเป็นคนอารมณ์ดี แต่ภายในจริงๆแล้วแบมแบมเป็นเด็กใสๆ น่ารัก ผมกับเพื่อนรักมันเหมือนเป็นน้องในไส้เลย

               “เออ สงสัยอยากหยุดโตแล้วตายเลย เรียกกูแบบนี้”ไอ้บีเขกหัวเหม่งๆของเด็กแสบไปทีหนึ่ง

               “โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย! เจ็บนะ พี่บีไม่ต้องไปงานวันเกิดพี่ชานยอลเลยนะ เค้าไม่ชวน!!”โอ้โห ไอ้บีเขกหัวมันเบาๆ แต่แม่งร้องยังกับโดนไม้หน้าสามฟาด

               “เออ แล้วทำไมกูต้องไปวะ ไม่ง้อหรอก”ไอ้บีเบ้ปากใส่ไอ้เด็กแสบที่เอาหัวซบกับไหล่ของผมอย่างออดอ้อน

               “ถ้าไอ้บีไม่ไปกูก็ไม่ไป”ผมหันไปบอกไอ้แบม เพราะงานนี้ไม่ต้องนึกเลยว่ารายชื่อแขกรับเชิญของพี่ชานยอลจะมาใครบ้าง ...

               “โอ๋ๆ พี่บีสุดหล่อของน้องแบม เนี่ยๆใครมันจะไม่เชิญพี่บี ตบแม่งเลย”โอ้โห หลังตีนเป็นหน้ามือเลยครับ - -  ย้ายฝั่งจากผมไปนั่งข้างไอ้บีบ กระแซะออดอ้อนจนน่าเตะ

               “เออใครวะ!”ไอ้บีก็เล่นกับน้องมันครับ

               “สงสัยแม่งกลัววิ่งหนีไปแล้ว ไอ้กากเอ๊ย”

               #อย่าเรียกแบมแบมว่าคนบ้าเพราะศรีธัญญาเรียกว่าคนไข้
              

               หลังจากไอ้สองพี่น้องบีแบม มันทะเลาะกันจบแล้วก็ถึงเวลาเข้าเรียน โดยที่ไอ้แบมมันนัดผมไปเจอกันที่ห้างๆใกล้ๆมหาลัยเพื่อจะไปเลือกของขวัญให้พี่ชานยอล วันนี้ไอ้เจียหยุดเรียนไปวันรวมญาติอะไรของมันไม่รู้ ผมเลยต้องมาเรียนกับไอ้บีสองคน

               “เออ มึงรู้จักเจสสิก้าเด็กบริหารป่ะ”ไอ้บีหันมาถามผมขณะกำลังฟังด๊อกเตอร์บรรยายเรื่องมิติอะไรสักอย่างที่ฟังแล้วโคตรชวนง่วง

               “ไม่อะ ทำไมวะ”ถึงกูจะไม่รู้จักแต่เปิดประเด็นมาขนาดนี้ก็เล่าเถอะเพื่อน ต่อมเผือกกูมันทำงาน
               “ก็จูเนียร์เล่าให้กูฟังว่า นางไปปล่อยข่าวว่าแจ็คสันเป็นเกย์ทั่วคณะเลย”อุต๊ะ !!  กูรู้เลยเจสสิก้าไหน

               “ละ..แล้วนางรู้ได้ไงวะ”
               “ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นวะ ก็นางบอกว่าเห็นแจ็คสันนอนดูดปากกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้”

               “เชี่ยไม่น่าตกใจรึไง แมนๆแบบนั้น”ผมแถไปงั้น ที่กลัวคือกลัวเจสสิก้าจำหน้าผมได้แล้วเอาไปเล่าให้ทุกคนฟังมากกว่าว่า คู่ขาของไอ้สั้น คือผมคนนี้ ไม่อยากคิดเลย TT

               “เออ แต่มึงก็ไม่น่าจะเหงื่อตก ตอนเรื่องเฮียฟานไม่เห็นตกใจขนาดนี้”ไอ้บีพูดอย่างจับผิด

               “คุณอิม ไหนลองอธิบายเรื่องมิติให้เพื่อนๆฟังสิ”ขอบคุณครับด๊อกฯ TT เกือบไปแล้วอี้เอิน ไอ้บีกรอกตาก่อนจะหันมาทางผมอย่างขอความช่วยเหลือ


แต่ขอโทษครับเพื่อน กูฟังแต่เรื่องที่มึงเล่า


จบคลาสไอ้อิมแจบอมก็โดนหักคะแนนไปครึ่งคะแนนเนื่องจากรบกวนสมาธิคนในคลาส มันโวยผมใหญ่เรื่องที่ไมยอมช่วยมันตอบคำถาม แต่ถามกูสักคำดิ๊สั๊ด ว่ากูตอบได้ไหม

มันบ่นผมไปตลอดทางจนถึงคาเฟ่ฝั่งตรงข้ามห้างXXX ที่นัดไอ้แบมไว้ ผมเลยต้องเลี้ยงคาราเมลมันไปหนึ่งแก้วเพื่อให้มันยอมหยุดบ่นเรื่องที่โดนหักคะแนน ส่วนผมก็รับไอซ์อเมรกาโน ตามสไตล์คนดาร์ค หึหึ

“รอนานไหม”ไอ้แบมโผล่หน้ามาแทรกระหว่างผมกับไอ้บีที่นั่งรอมันอยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์
“ไม่นานเลยมึง ไอ้บีเทศน์กูจบไปสองรอบละ”ผมแกล้งประชดมัน

“โม้! ดูดน้ำยังไม่ได้ครึ่งแก้วเลย”ไอ้ห่านิรู้ทัน จริงๆผมมานั่งรอก่อนมันมาแปปเดียว
“เออๆ แล้วนี้พี่คุณไม่มาด้วยไง๊”ผมถามหาพี่ชายมัน ขี้เกียจต่อปากต่อคำ

“พี่บอกว่าหุ้นไปกับพวกพี่อูยองแล้ว”มันบอกผมก่อนจะหยิบคาราเมลปั่นของไอ้บีไปดูดหน้าตาเฉย บางทีเราควรสนิทกันให้น้อยลงป่ะวะแบม

“เนียนนะมึง ไปเลย รีบซื้อจะได้รีบกลับไปอาบน้ำ”ไอ้บีบีบจมูกโด่งๆของน้องมันไปทีหนึ่งก่อนจะดันหลังให้เดินออกจากร้านไปหาซื้อของขวัญ

พวกเราเดินวนกันอยู่ในห้างประมาณสี่สิบนาที ผมได้น้ำหอม ไอ้บีซื้อตุ๊กตาดัมโบ้ มันบอกหูพี่ชานยอลกางเหมือนดัมโบ้ ไอ้ซั๊ด เป็นพี่เขากูคงฉีกทิ้ง ส่วนไอ้แบมมันพาผมมาหยุดอยู่หน้าร้าน 18+

“มึงอย่าบอกนะว่า...”ผมหันไปมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ

“พี่มาร์คแม่งหมกมุ่น ! โน้น จะมาดูหมวก”มันด่าผม ก่อนทำเสียงประมาณว่าให้ผมแหกตาดูร้านข้างๆโน้น
“เชี่ยมึงนิ หมกมุ่นสาด”ไอ้บีซ้ำเติมผม เอ้า ไอ้ห่า แล้วทำไมไม่ไปหยุดตรงหน้าร้านหมวกวะ

“ก็มึงมาหยุดทำห่าอะไรหน้าร้านนี้วะ”

“ฮ่าๆ ก็เมื่อกี้คนมันเยอะเลยรอก่อน ป่ะๆ แบมเล็งไว้แล้ว”ไอ้แบมขำ ก่อนจะลากแขนผมเข้าไปดูหมวกในร้าน มีแต่หมวกแจ่มๆทั้งนั้นเลยอ่ะ พวกผมเลยแยกย้ายกันเดินดู

“ไอ้เอิ้น นี้มันหมวกที่มึงอยากได้นิหว่า”ไอ้บีเรียกผมไปดูหมวกสีดำปีกเขียว ที่ผมอยากได้

“โห มึงแพงอะ รออีกหน่อยกูขอเก็บตังก่อน”ผมพลิกดูป้ายราคาก่อนจะหันไปบอกมัน เงินน่ะมี แต่ต้องเก็บไว้ทำอย่างอื่นบ้าง ไม่ได้มีเป็นถุงเป็นถังใช้เท่าไหร่ก็ได้
“ยืมกูก่อนเปล่า ดอกร้อยละยี”ไอ้บีพูดขำ
“ไอ้หน้าเลือด!”ผมวางหมวกไว้ที่เดิม อยากได้จัง หรือจะอ้อนให้เฮียซื้อให้ดี เฮียมันเล่นหุ้นแปปเดียวก็ได้แล้ว งื้ออ

“เอาหน่า ถ้ามันเป็นของมึงมันก็คงอยู่”ไอ้บีบอกผมก่อนจะลากผมไปดูหมวกแบบอื่นที่ผมไม่ชอบ จะได้ไม่อยากได้ไง ฮ่าๆ เป็นไงเพื่อนผม แสนรู้วววว

“เสร็จและ เอาไรกันเปล่า”ไอ้แบมเดินกลับมาพร้อมถุงหมวกที่ห่อลงกล่องเสร็จสัพ
“มึงซื้อให้กูดิ”ผมบอกมันขำๆ

“โหยย พี่มาร์ครวยกว่าแบมอีก แต่ขี้งก!!”มันยู่หน้าใส่ผม ก่อนจะควงแขนผมข้างหนึ่งอีกข้างหนึ่งควงไอ้บีเดินออกจากร้านเพื่อจะไปซับเวย์ เรานัดเวลากันไปเจอที่ร้านCYCY ตอนสองทุ่ม ก่อนจะแยกกันไปคนละทาง


>>>>>><<<<<<< 

               ผมกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโดก่อนจะออกมางานวันเกิดที่ชานยอลพร้อมเฮียฟานที่กลับไปอาบน้ำแต่งตัว ฉีดน้ำหอมฟุ้งเลย คือ มึงลงไปแช่ในถังน้ำหอม ก็บอกมา คือแบบหอมจนเหม็นอ่ะครับ เคยเป็นไหม

               “เหม็นเชี่ย!”ผมบ่นมันหน้ามุ่ย

               “ก็ชานยอลบอกชอบกลิ่นนี้นิหว่า เหม็นจริงดิ”มันคงเริ่มหมดความมั่นใจ ยกแขนขึ้นมาดม จริงๆก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นฉุนๆแบบนี้ ชอบกลิ่นเย็นๆ เบาๆ

               “เออ แล้วนี้เตรียมเซอร์ไพรส์อะไรไว้ให้แฟนวะ”ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มันจะเสียเซลฟ์แล้วต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

               “ก็เอากันยันสว่างมั้ง”

               “ไอ้ส๊าดดด สงสารแฟนมึงจริงๆอ่ะเฮีย”ผมมองหน้ามันหน่ายๆ มึงคิดว่าความโรแมนติคมันแขวนไว้บนเตียงรึไง

               “พูดเล่นโว้ย กูจองตั๋วไปเที่ยวเชจูไว้ ยังไม่ได้บอกมันเลยอย่าหลุดนะ”มันบอกผม หูยอยากไปด้วยจัง

               “ไปด้วยได้ป่าวอ่ะ”ผมลองถาม เผื่อฟลุ๊ค
               “ไม่ได้อ่ะ ห้องเต็ม”ตัดบัวอย่าให้เหลือใย คนที่มันโชคดีจะมีสักกี่คนบนโลก วู้ว! ผมส่ายหน้าเซ็งๆก่อนจะหันมองออกไปทางอื่น


               เหม็นขี้หน้าพี่


               เฮียคริสพาผมตรงไปยังร้านที่จัดงาน เป็นร้านเหล้าหรู มีดนตรีให้ฟังสบายๆ เหมาะกับการจัดงานวันเกิดนั้นแหละ ขืนไปจัดในผับ ตายๆแหกไปคุยกันจนคอแห้งแหงมๆ


               “พี่มาร์ค”ไอ้แบมที่มาถึงก่อนหน้าถลาเข้ามากอดแขนผม วันนี้มันแต่งตัวน่ารักมากครับ เสื้อสีแดงตัวโคร่งกับกางเกงสีดำดูเหมาะกับมันดี
               “น่ารักนะมึงวันนี้”ผมชมมัน

               “แน่น๊อน น่ารักเหมือนพี่รหัสแหละ”ไม่มีเคอะเขินเลยน้องกู แต่พูดจาเข้าท่า
              
               “แล้วนั่งไหนวะ ทำไมมึงไม่อยู่โต๊ะ”ผมชะเง้อมองหาโต๊ะของพวกพี่ชานยอล
               “ไม่กล้าไปง่ะ มีโรคจิต”หื้อ อะไรของมันคนอยู่เยอะแยะจะมีใครเป็นโรคจิต

               “อะไรของมึง  แล้วไอ้บีมายัง”
               “มาแล้ว เมาแล้วมั้งนั่น”แบมแบมพาผมไปที่โต๊ะ ผมก้มหัวทักทายพี่ๆที่นั่งดื่มกันอยู่ก่อนหน้า หอถึงโจทก์เก่าที่นั่งอยู่หัวโต๊ะผมก็สะบัดหน้าหนีไปนั่งข้างไอ้บีที่กำลังพูดคุยกับพี่อูยองอย่างถูกคอ

               “โม้อะไรให้เพื่อนผมฟังพี่”ผมเดินไปนั่งข้างๆไอ้บี
               “โม้พ่อง คุยกันเรื่องรถ”พี่อูยองชี้หน้าผมขำๆก่อนจะบอกประเด็นสนทนาที่กำลังคุยกันอยู่ งั้นผมขอบายคุยไม่รู้เรื่องแหะ รถเนี่ย

               “อ้าว เชี่ยยูคมาด้วยหรอวะ”ผมร้องทักไอ้ยูคที่เดินเข้ามาใหม่
               “เออ มาสักพักแล้วไปเยี่ยวมา”มันพยักหน้าเดินเข้ามาจับมือทักทายผม แต่สายตากลับจ้องคนที่ตอนนี้นั่งนิ่งข้างๆผม

               กูก็ว่า โรคจิตที่ไหน หึหึ

               “เลิกจ้องเหอะสัด! น้องมันเขิน”ผมตบแขนให้มันไปนั่ง มันยิ้มขำกับท่าทีของแบมๆ ก่อนจะไปนั่งตรงฝั่งตรงข้ามน้องมัน

               “เอาของไปให้พี่ชานยอลยัง”ไอ้บีถาม
               “ยังๆ เอาไปให้เลยป่ะ”ผมส่ายหน้า ก่อนจะมองไปทางที่ชานยอลที่นั่งคุยอย่างสนุกสนานอยู่กับเฮียคริส

               “แบมด้วยๆ”ได้แบมหยิบของขวัญที่ตัวเองเตรียมมามาถือไว้
               “กูด้วย”หื้อ รุกหนักนะ คิมยูคยอม  ผมหันไปมองหน้ามันยิ้มๆ เพราะพอมันพูดจบไอ้เด็กแก้มยุ้ยข้างๆผมก็ก้มหน้างุด แก้มนี้เห่อแดง นี่ไอ้ยูคมันยังไม่ได้รุกมากนะแบมเอ๊ย เตรียมตัวละลายได้เลย


               “พี่ชานยอล สุขสันต์วันเกิดครับ”ผมยื่นของขวัญไปตรงหน้าพี่ชานยอล
               “ขอบคุณนะ ไม่เห็นต้องลำบากแค่มาก็ดีใจแล้ว”พี่ชานยอลยิ้มกว้างกว่าทุกวัน น่ารักมากๆครับตาโตๆหยีลงกับรอยยิ้มหวานๆ แขนเรียวดึงผมเข้าไปกอดก่อนจะลูบหลังเบาๆ
               “มีความสุขมากๆครับ”ผมยิ้มตอบ ก่อนไอ้บี ไอ้แบม รวมถึงไอ้ยูค จะมอบของขวัญให้พี่เขาบ้าง  พี่ชานยอลดูจะถูกใจดัมโบ้ของไอ้บีถึงขนาดกอดไว้ไม่ปล่อย

               ทั้งสามคนเอ่ยอวยพรพี่ชานยอลก่อนจะพากันเดินกลับไปนั่งที่เดิม ผมถูกมือหนาๆของไอ้คนที่นั่งหัวโต๊ะจับไว้ตอนที่เดินผ่าน ก่อนที่ผมจะสะบัดมันออกเหมือนโดนของร้อน

               ทำบ้าอะไรของมึงวะ สาด!

               กูยังไม่หายโกรธมึงหรอกนะ ไอ้หมาไส้กรอก!
              
               พอเริ่มดึก มันก็เริ่มคึก เริ่มเมา ลิ้นเริ่มพัน ขนาดค่อยๆจิบนะเนี่ย แต่จิบไปร่วมสิบแก้วเห็นจะได้ ก็เด็กที่ชงเหล้าเติมให้ไม่มีพล่อง บริการดีจริงๆ

               “ไหวปะมึง”ไอ้บีถามผม

               “ไหวดิ แดกไปนิดเดียว”ผมหันไปบอกมันด้วยอาการมึนๆ
               “ไม่ต้องแดกเยอะ เดี๋ยวตูดกระแทกพื้นแบบวันที่พี่แจ็คสันพามึงไปส่งอีก”ไอ้ยูคตบหัวผมเบาๆ

               “กระแทกตอนไหนวะ ไม่เห็นรู้”
               “ก็มึงเมาอย่างหมา กูจะถามมึงอยู่ว่าไม่เจ็บหรอวะ แม่งล้มไปเต็มแรง”หื้อ จะว่าไปกูก็เจ็บนะ แต่กูเจ็บเพราะ.... เฮ้ย ! หรือว่าวันนั้นผมเจ็บก้นเพราะตูดกระแทกพื้นกันนะ ?

               “มึงแน่ใจนะว่าจำวันไม่ผิด”ผมถามย้ำ
               “แน่ดิวะ กูเห็นกับตา แต่วันนี้กูก็เมาจะพระเอกไปช่วยมึงก็เอาตัวเองไม่รอด”ไอ้ยูคบอกผมอย่างมั่นใจ
              
               “พี่ม้าคคคคคคคคค”เสียงไอ้แบมครับ ตอนนี้มันเมามาก เพราะมันเขินที่โดนไอ้ยูคนั่งจ้อง มันเลยกระดกหมดแก้ว หมดแก้ว  จึงกลายร่างเป็นหมาน้อยนั่งเมาแอ้ซบไหล่ผมเรียบร้อย ส่วนไอ้ยูคยอมจ้องก็เอาแต่ยิ้มกับภาพน่ารักตรงหน้า กูเข้าใจเลยว่าทำไมแบมแบมมันบอกมึงโรคจิต

               “ว่าไง”ผมก้มหน้าลงไปถามมัน เผื่อมันจะอ้วกจะเอิ๊กจะได้หนีทัน

               “ตัวพี่ห๊อมหอม งื้ออ”มันเอาจมูกมาฟุดฟิดๆ อยู่แถวๆซอกคอผม งื้ออ จั๊กจี้โว้ยยยย ไอ้แบม !


               “..มานี่!!
               “ปล่อยเว้ย! ปล่อยดิ!!”ผมโดนลากออกมาจากโต๊ะอย่างไม่รู้สาเหตุโดยฝีมือของ แจ็คสัน หวัง

               “เป็นบ้าอะไรวะ!”ผมสะบัดมือตัวเองออกเมื่อมันพาผมมาหยุดอยู่ตรงมุมสูบบุหรี่ด้านหลังร้าน

               “ทีกับคนอื่นระริกระรี้พูดดี เพราะกูมันไม่ใช่ไอ้เด็กนั้นรึไง!”พูดอะไรของมันวะ ผมงงไปหมดแล้วเนี่ย

               “อะไรของมึง จู่ๆก็ลากกูออกมา”ผมขมวดคิ้วแน่น ทั้งโกรธทั้งงงครับ มันจะอะไรกับผมนักหนา อุตส่าไม่ยุ่งด้วยแล้วนะ
               “ก็มึงกับไอ้เด็กนั่น”

               “แบมแบม?  ทำไมกูกับแบมแบมทำไม”พูดยังกับมึงหึงกู ไอ้สาดด กูในเสน่ห์แรงมึงต้องทำใจ (หื้อออออ)

               “ก็จะเอากันกลางร้านอยู่แล้วยังมีหน้ามาถามอีกหรอ ต้วนอี้เอิน!!”มันพุ่งเข้ามาบีบแขนผมแน่น ตอนนี้แววตาดุดันของมันทำเอาตัวผมสั่นไปหมด

               “กูไปเอากันบนหัวมึงรึไง!”โว้ยยย ไอ้สาดดดดด กูจะเอากับใครมันก็เรื่องของกูป่ะวะเนี่ย ทนไม่ไหวละ

               “มึงคงอยากให้คนอื่นรู้เรื่องของเรามากสินะ”ผมมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาขู่จริงๆ

               “กูเจ็บ!”ผมออกแรงดิ้นเพราะมือหนาที่บีบแขนผมมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับอารมณ์โกรธของมัน

               “แล้วมึงก็เลิกเอาเรื่องนั้นมาขู่กู  เพราะกูรู้แล้วว่าที่กูเจ็บวันนั้นน่ะเพราะกูล้มตูดกระแทกพื้น!”ผมสะบัดแขนออกจากมือหนาได้สำเร็จ มันชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากฟังจบ

 ผมรู้แล้วว่า เหตุการณ์วันนั้น ผมคิดไปเองเป็นตุเป็นตะ ทั้งๆที่มันไม่ได้ทำอะไรผมเลย ผมก็แค่หกล้ม ทำให้รู้สึกเจ็บที่ก้น ยิ่งพูดเหมือนยิ่งด่าตัวเองว่าโง่แหะ TT

  ไอ้เอิ้น! ไอ้ขี้มโน !
              
               “หึ...”
              

               สิ้นเสียงหนักๆในลำคอของมันผมก็รู้สึกถึงปากหยุ่นๆที่ประกบลงอย่างพอดิบพอดีบนปากผม

มึง! เอาอีกแล้วนะ ไอ้เชี่ยสั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน !!!! จูบกูซะส่างเมาเลย มึงไม่รู้ไง๊ ว่ากูกินเหล้าไปเยอะขนาดไหนว่าจะเมาขนาดเนี๊ยะ!!!

               งื้ออ แต่รู้สึกดีจัง


               เห้ยยย ไม่ใช่แล้วเอิ้น ไอ้สั้นมันปล้ำจูบเอ็งนะนั้น !!!



               “อื้อ...!!”ผมทั้งดิ้นทั้งทุบทั้งเหยียบตีน แต่มันก็ให้แขนรวบตัวผมไว้แน่นพร้อมกับสัมผัสที่แสนจะดุดันที่มันมอบให้ผม ไอ้แจ็คสันหวัง ... มึงต้องโดน


               “โอ้ยยยยยย!!”มันร้องเสียงหลง เพราะโดนเข่ามหากาฬของผมกระแทกไปเต็มๆกระปู้มัน



               “มึงจำไว้นะ...”


               “กูน่ะไม่ง่าย!!

ผมเบ้หน้าใส่มันก่อนจะเดินเข้าร้านไป ทิ้งมันให้ยืนหน้าหงิกตัวงอด้วยความจุกอยู่แม่งตรงนั้นแหละ


ตึกตักตึกตักตึกตัก

ผมไม่ได้เดินกลับไปที่โต๊ะแต่พาตัวเองเข้ามาในห้องน้ำ เสียงหัวใจผมมันเต้นแรงมากยังกับว่าจะหลุดออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าความโกรธ สงสัยผมจะโมโหจนหน้าแดงแป๊ด หรืออาจจะเป็นเพราะผมรู้สึกดีกับสัมผัสหยาบๆของไอ้สั้น

 ไอ้อี้เอิน !

ง่ายกว่าปลอกกล้วย

ก็มึงไง ...  อี้เอิน


TBC


เค้ามาแล้วที่รัก ตอนนี้ถือเป็นตอนเปิดตัวแบมแบม
แบมแบมน่ารักไหม? งื้ออ จริงๆชอบคาแรกเตอร์แบมนะ

รอดูกันต่อไปว่าพี่ยูคจะรวบหัวรวบหางน้องแบมยังไง


มาต่อตามคำเรียกร้องแล้วน๊า แค่คนเดี๋ยวเรียกร้อง
ก็อัพ อิอิ คำพูดของเรามันยังไม่สวยเหมือนอย่างที่อยากให้เป็น
ใครมีคำแนะนำดีๆ แนะนำเราได้นะคะ 

ติดต่อ @jswmt สปอย สกรีม สะดีดสะดิ้งอะไรก็ตามใจ
#ฟิคน้องเอิ้น  เจอกันตอนหน้า บัยยยยย !!
               

วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

♡ [SF] แจ็คสัน หวัง -2- END


 ♡ [SF] แจ็คสัน หวัง -2- END





         “เป็นบ้าอะไรเนี่ย!”แจ็คสันดุอีกคนเสียงหนัก เมื่อร่างบางพาเขาวิ่งหนีหายเข้ามาในซอกเล็กๆ เพื่อหลบจินอา

 
“..คือว่า”

“ทำแบบนี้ทำไม...”เสียงนิ่งๆแบบนั่น อี้เอินไม่เคยได้รับมันสักครั้ง แจ็คสันคนที่เคยอ่อนโยน หายไปในพริบตา


ต้วนอี้เอิน .. พลาด
 

 
“ขอโทษ .. แต่เรามีเรื่องจะบอกกากานะ”อี้เอินพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อีกทั้งยังไม่กล้าสบสายตาที่ดุดันของอีกฝ่าย  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น  แต่พอได้ฟังเสียงตะคอกอย่างไม่ใยดี คำตอบกลับชัดเจนว่า


แจ็คสัน หวัง
 
 
 
ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคนของ ต้วน อี้เอิ้น




“มีอะไรค่อยกลับไปคุยกันไม่ได้รึไง พาฉันวิ่งหนีมายังกับคนบ้า น่ารำคัญชะมัด”แจ็คสันตะคอกอีกคนด้วยโทสะ  อี้เอินที่เขารู้จักต้องไม่ทำแบบนี้แน่ เหอะ มันน่าโมโหจริงๆให้ตายเถอะ ทั้งๆที่ควรจะได้ปรับความเข้าใจกับจินอา แบบนี้คงโดนเข้าใจผิดไปแล้ว
 
 
“ใช่! ฉันมันบ้า! ไอ้คนโง่ ถ้านายมองความรักของฉันเป็นแค่เรื่องน่ารำคาญ ก็พอกันที”อี้เอินตัดพ้อคนตรงหน้าอย่างสุดทน  ใบหน้าหวานที่เคยสดใสกลับถูกอาบด้วยน้ำตา
 
 
 
“...”แจ็คสันตกตะลึงกับคำพูดที่อี้เอินระเบิดออกมา รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง เขาทำพลาด  เขาทำให้อี้เอินต้องร้องไห้ ... เพราะอารมณ์ชั่ววูบ
 

“ฉันเหนื่อยแล้ว ..”อี้เอินหมุนตัวออกไปจากซอกเล็กๆ  แจ็คสันมองตามออกไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่า มันงงไปหมด  สับสน ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้ว่าอี้เอินรู้สึกต่อเขามากขนาดนี้ แล้วไหนจะคำพูดไม่ทันคิดจนทำให้อีกคนต้องร้องไห้นั้นอีก


คนโง่น่ะ.... คือ แจ็คสัน หวัง คนนี้ต่างหาก
 



“แจ็คสัน!”ใบหน้าหล่อหันไปมองต้นเสียง ก็เจอจินอาที่ยืนหอบ หล่อนคงวิ่งตามเขามา ใบหน้าหวานของเธอยิ้มเล็กๆ แจ็คสันเดินเข้าไปหาเธอก่อนจะกอดเธอไว้แน่น ทำไมมันรู้สึกหน่วงแบบนี้

 
 
ไม่ดีใจสักนิด

 
 
หวังว่ากลับไป อี้เอินจะยังรอเขาอยู่นะ



>>>>>>>>><<<<<<<<< 

 

 
อี้เอินกลับมาถึงหอก็คลุกอยู่ที่ห้องแบมแบมโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดร้องไห้ แบมแบมพยามถาม แต่คำตอบของเพื่อนรักก็เป็นการแต่ส่ายหน้า บอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีใครทำอะไร

ถึงจะยืนกรานว่าตัวเองไม่เป็นไรแต่คนหน้าหวานก็ร้องไห้ไม่หยุดมาร่วมสองชั่วโมง จนแบมแบมไม่รู้จะทำยังไง เลยปล่อยไว้แบบนั้น  อี้เอนคงอยากอยู่คนเดียวมากกว่าที่จะให้เขาไปถามเซ้าซี้โน้นนี้  ถ้าอี้เอินต้องการคำปรึกษาคงปริปากพูดกับเขาเอง นี่ละนา นิสัยของอี้เอิน
 
 
“หมียักษ์.. เอินเอินมันเป็นอะไรกันแน่วะ”แบมแบมนั่งกอดเข่ามองไปทางอี้เอินที่นั่งเหม่ออยู่ตรงประตูระเบียงหลังห้องเอ่ยถามอีกคนเบาๆ
 
“อาการเหมือนอกหัก”ยูคยอมสันนิฐาน โดยที่มือนาก็เล่นผมสีมิ้นของแบมแบมไปด้วย แบมแบมฟังจบก็หันขวับจ้องหน้าอีกคน

 
“พูดเหมือนเคย ไปโดนใครหักอกมาไง๊!!”ไวเท่าความคิดมือเล็กเอื้อมไปดึงหูยูคยอมเบาๆด้วยความหมั่นไส้ ทำเป็นปรามจารย์ด้านความรัก อย่าให้จับได้นะ พ่อจะบิดให้น้องเขียวเลย
 
 
“โอ้ยย มันเจ็บนะ!  ไม่เคยเว้ย ก็แฟนอย่างนายไม่เคยทิ้งไง ไอ้เตี้ย!!”ยูคยอมเขกหัวแบมแบมก่อนจะรีบวิ่งหนีหมอนอิงใบเล็กที่แบมแบมปาตามไปติดๆ  



          แบมแบมเขินรุนแรงนะ รู้ยัง


“เอินเอิน”แบมแบมเถียงกับยูคยอมพอหอมปากหอมคอก็เดินมานั่งลงข้างอี้เอินโอบไหล่บางที่สั่นไหวไปตามแรงสะอื้นไว้หลวมๆ ความจริงก็อยากปล่อยให้อยู่คนเดียว  แต่ขืนปล่อยไว้พวกเข้าต้องจมน้ำตาตายแน่ๆ
 
“ขอโทษนะ..ที่มารบกวน”อี้เอินยกมือขึ้นปาดน้ำตาเบาๆ ถึงรู้ว่ามารบกวนเวลาอ่านหนังสือของเพื่อน  แต่เขาไม่รู้จะไปที่ไหนจริงๆ  ไม่อยากกลับเข้าไปในห้องที่มีแต่ความทรงจำกับคนใจร้ายคนนั้น มันคงเจ็บถ้าต้องจมอยู่กับความสุขในอดีตที่มันไม่เคยเป็นความจริง

“เฮ้ย.. คิดมากหน่า  ฉันโอเคนะเว้ย แต่แกจะบอกฉันได้ยังว่าร้องไห้ทำไม? เรื่องไอ้สั้น?”แบมแบมบอกคนคิดมาก จะมาอยู่เป็นรูมเมทสามคนเลยก็ได้ เขาไม่ใช่พวกคิดเล็กคิดน้อยซะหน่อย

“มันทำอะไรแกวะ! ฉันจะไปจัดการให้”แบมแบมหุนหันลุกขึ้น เมื่อคำตอบที่ได้รับจากเพื่อนรักเป็นการพยักหน้าเบาๆ

“เขาไม่ได้ทำหรอก ฉันทำตัวฉันเอง ..”อี้เอินส่ายหน้าเบาๆก่อนจะฟุบหน้าลงกับเข่าตัวเอง ...และร้องไห้อีกครั้ง แบมแบมได้แต่กอดปลอบอี้เอินไว้แน่นด้วยความเป็นห่วง  หรืออี้เอินจะเสียตัวให้ไอ้บ้านั้น ? แบมแบมได้แต่ตั้งข้อสงสัยเต็มหัวไปหมด เพราะเพื่อนรักไม่ยอมบอกความจริง เขาควรจะโทรฟ้องจินยองกับซอนมิดีไหมเนี่ย งื้ออออ

พอเริ่มค่ำ แบมแบมนั่งติวหนังสือให้ยูคยอมอยู่กลางห้อง ส่วนคนขี้แยก็ร้องไห้จนหลับไปอยู่บนเตียงของแบมแบมนั้นแหละ  แบมแบมกับยูคยอมก็คุยไป ติวไป ทะเลาะไป จนกลายเป็นปกติไปแล้ว ถ้าขาดใครไปสักคนคงเหงาน่าดู   

“อ้าว  ตื่นแล้วเหรอ”แบมแบมเดินมาหยิบของใกล้ๆเตียง  เห็นอี้เอินนอนตาแป๋วจ้องเขาอยู่ ดวงตาคู่สวยบวมช้ำดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาหนักแค่ไหน
 
“อื้อ .. แบม ..แกพาฉันไปเอาของที่ห้องหน่อยสิ”
 
“ห๊ะ ..เอ่อๆ ได้ๆ ดูดิ๊ตาบวมเป็นตูดโดเรม่อนเลย”ถึงแม้จะยังงงๆแต่ก็ยังไม่อยากซักไซ้อะไรเพื่อนรักของตัวเองมากนัก มือเล็กดึงอี้เอินให้ลุกขึ้น ก่อนจะพาเด็กขี้แยเดินขึ้นไปห้องของเจ้าตัวที่อยู่อีกชั้น


 >>>>>>>><<<<<<<<


 

“ไปไหนมา”แจ็คสันปรี่เข้ามาถามเมื่อประตูห้องเปิดออก แต่กลับเจอแบมแบมแทนที่จะเป็นอี้เอิน แบมแบมเบ้หน้าเมื่อเห็นหน้าของไอ้ตัวดีที่ทำเพื่อนเขาร้องไห้

“เห็นหน้าแกแล้วเซ็งว่ะ”แบมแบมดึงมืออี้เอินเข้ามาในห้อง เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า อี้เอินเก็บเสื้อผ้าสองสามชุด ก่อนจะเดินไปเก็บหนังสือที่จำเป็นต้องอ่าน ไม่ลืมคว้าหมอนใบโปรดแล้วเตรียมตัวเดินออกจากห้อง

“ทำบ้าอะไรเนี่ย!!”แจ็คสันตะคอกเสียงดัง แล้วเดินไปกระชากหมอนใบนุ่มโดยไม่คิดว่ามันจะขาดจนนุ่นแตกกระจาย อี้เอินมองอีกคนด้วยความตกใจ

“ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย !!”แจ็คสันก็รู้ว่าถ้าเขาไม่มีมันทำให้เขานอนหลับไม่สนิท

“แล้วจะไปไหน ! ..ขนเสื้อผ้าไปทำไม”แจ็คสันถามเสียงดังด้วยอารมณ์โกรธ ทำไมต้องขนเสื้อผ้าออกมา  ทำไมต้องทำเหมือนจะหนีเขาไป

“ฉันจะไปนอนกับแบมแบม”อี้เอินตอบเสียงนิ่งแล้วเบือนหน้าไปทางทงเฮ
“แล้วทำไมไม่นอนที่ห้อง”

“รู้อยู่แกใจแล้วจะมาถามทำไม แจ็คสันหวังเลิกเคยชินกับการมีต้วนอี้เอินคนนี้เถอะ”อี้เอินจ้องใบหน้าอีกคนด้วยสายตาที่ตัดพ้อ
 
“....เอินเอิน”แจ็คสันเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงเบาหวิว เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องอารมณ์เสียที่อี้เอินจะไปนอนห้องคนอื่น  ไม่รู้ว่าทำไมถึงหงุดหงิดที่เห็นอีกคนเมินเฉยทำราวกับเขาไม่มีตัวตน  เพราะความผูกพันงั้นเหรอที่ทำให้เขาเปลี่ยนเป็น แจ็คสัน หวัง คนบ้า
 
 
“อย่ายุ่งกับฉันอีกเลย.. ฉันเป็นเพื่อนนายไม่ได้อีกแล้ว”อี้เอินตัดสินใจแล้ว เขาเหนื่อยมามากพอกับการที่ต้องปิดบังความรู้สึกของตัวเองไว้

 

และในวันที่มันระเบิดออกมา คือวันที่เขาต้อง เสียแจ็คสัน หวัง ไป





“แกจะรั้งมันไว้ทำไมวะ .. อย่ามาเห็นค่าของเพื่อนฉันตอนแกจะเสียมันไปดิ”แบมแบมกอดอกพูดกับแจ็คสันที่ดูเหมือนจะสติหลุดลอยหลังจากอี้เอินเดินออกไปเมื่อครู่ แบมแบมมองอีกคนด้วยความสมเพช
 
 

               เพราะแจ็คสันหวัง มันเป็นแค่คนโง่ที่ไม่รู้ใจตัวเอง

 
 


>>>>>>>>><<<<<<<<< 

 

 
หลังจากวันนั้นแจ็คสันก็ไมได้เจออี้เอิน  ผ่านไปได้สามวันอี้เอินก็ให้คนเข้ามาขนของออกจากหอ เขาก็ไม่ได้รับข่าวสารใดๆจากร่างบาง ไม่มีแม้แต่คำร่ำลา ถามแบมแบมก็เอาแต่ส่ายหน้า เบ้ปากใส่เขา 
 
แจ็คสันไม่ได้เจออี้เอินตลอดการสอบจนกระทั่งปิดเทอม ทั้งๆที่มีกิจกรรมของคณะมากมายแต่อี้เอินก็ไม่เคยเข้าร่วม  เขาพยายามติดต่ออี้เอินทุกทาง โทรเข้ามือถือ เบอร์ก็ถูกระงับ โทรเข้าบ้านที่บ้านก็บอกว่าอี้เอินไม่อยู่ เป็นแบบนี้มาตลอดเกือบสองเดือนแล้ว
 
 
ที่แจ็คสันต้องจมอยู่กับโลกที่ไม่มี


ต้วนอี้เอิน
 

 
ชีวิตประจำวันของแจ็คสันเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ  เขาหันกลับมากินเหล้า  สูบบุหรี่ เที่ยวกลางคืน ควงผู้หญิงขึ้นคอนโดเป็นว่าเล่น จนจินอาทนไม่ไหวกับพฤติกรรมแย่ๆของคนรัก จึงบอกเลิกในที่สุด 
 
เหตุผลเดียวที่ทำแจ็คสันเป็นแบบนี้เพราะ อี้เอิน แต่จะโทษใครได้ ในเมื่อเป็นเขาเองที่ทำให้อี้เอินเลือกที่จะเดินออกไปจากชีวิต โทษแค่ตัวเขาเอง ที่ทำให้คนที่รักเขา ห่วงใยเขามาตลอด เสียใจเพราะคำพูดแย่ๆในวันนั้น

“ไอ้ยูค มึงว่ากรรมมันตามสนองกูรึเปล่าวะ”แจ็คสันที่นั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องยูคยอมหันไปถามเพื่อนที่นั่งเกลากีตาร์อยู่ข้างๆ  ยูคยอมเหลือบมองด้วยหางตา
 

“มึงรักเขาแล้วเหรอ  ถึงกล้าพูดว่ากรรมตามสนองตัวเองอ่ะ แล้วที่สำคัญกรรมน่ะสนองมึงคนเดียวไม่พอ สนองกูด้วยเนี่ย พ้นควันบุหรี่ใส่กูพุ้ยๆ ไอ้ห่า! เมียกูยังเล็ก กูยังไม่อยากตายเว้ย!

 
“กูก็ไม่รู้ว่ะ  กูแค่รู้สึกว่ากูขาดเขาไม่ได้ รอยยิ้มที่สดใส คำพูดที่คอยเป็นห่วงกู มือเล็กๆที่คอยดูแลกู กูขาดเขาไม่ได้จริงๆ  แค่กูหลับตาภาพที่เขาร้องไห้มันกลับหลอกหลอนกูไม่รู้จบ มันทำให้กูหายใจไม่คล่อง  กูรู้สึกชีวิตว่างเปล่าที่เขาหายไปจากชีวิต ..กูรักเอินเอินใช่ไหมวะ”

“กูถามจริง มึงสอบเข้าวิศวะได้ไงวะ.. น่าจับไปไถนาเน๊าะไอ้ควาย สงสัยกรรมมันจะวางแผนสนองมึงมาตั้งแต่เกิด มึงเคยได้ยินไหม  บุญมีแต่กรรมบัง ไอ้หรรม”ยูคยอมตบหัวคยูฮยอนเบาๆด้วยความหมั่นไส้  ทีเรื่องโง่ๆอ่ะฉลาดนัก  ทีเรื่องใกล้ตัวแบบนี้เสือกไม่รู้ มึงโง่หรือมึงโง่วะ ! เดี๋ยวเรียกแบมแบมมาด่าแม่ม
 
 
“กูต้องทำไงวะไอ้ยูค .. กูคิดถึง กูอยากกอด แต่กูไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ แม่งมืดแปดด้าน”แจ็คสันขยี้ผมตัวเองเบาๆ ตอนนี้เค้ากำลังสับสนไปหมด สับสนทุกอย่างจริงๆ อยากเจอ อยากกอด อยากพูดคุย อยากขอโทษ แต่เขาคงไม่มีโอกาสนั้นแล้วใช่ไหม
 
 
“ระยะเวลาที่ห่างกัน มันอาจจะทำให้เขาลืมมึงไปแล้วก็ได้ ตัดใจเหอะวะ”ยูคยอมเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ แต่ในเวลานี้เขาทำได้แค่เตือนสติให้แจ็คสันยอมรับความจริงว่า ยังไงก็ไม่มีทางที่เขาจะได้อี้เอินกลับมา
 

“แต่ระยะเวลากำลังจะฆ่ากูให้ตาย  กูขาดเอินเอินไม่ได้”

“ระยะเวลาไม่ฆ่ามึงหรอก  แต่บุหรี่ที่มึงคีบอยู่เนี่ยจะฆ่ามึง ..แถมฆ่ากูด้วย”ยูคยอมพูดอย่างตรงไปตรงมา นี้ถ้าไม่สนิทจริงๆก็คงจะคิดว่าเขาเป็นพวกปากหมา  เพราะสนิทขนาด ยังคิดว่าคำว่าปากหมามันไม่พอสำหรับคิมยูคยอม  เห็นมีที่มันพูดด้วยดีหน่อยก็มีแบมแบมและพ้องเพื่อนนี้แหละ
 

“ก็นี้ไม่ใช่เหรอวะที่อยู่เป็นเพื่อนกู”

“แล้วกูเป็นตัวเชี่ยอะไร?  ปล่องภูเขาไฟฟูจิไง ?” เอ้าไอ้ห่านี้  นั่งคุยก็นั่งอยู่ด้วยกัน มาบอกมีบุหรี่เป็นเพื่อน ยูคยอมคิดต่อในใจ  อารมณ์เสียนะครับเนี่ย กูหน้าเหมือนกำแพงเมืองจีนรึงายย สั้ดด


“คยอมมี่! เปิดระเบียงไว้อีกแล้วเหรอ .. ทำไมมีกลิ่นบุหรี่ด้วย”เสียงหวานเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดการสนทนาของทั้งคู่  เสียงที่ทำให้แจ็คสันหันไปมองด้วยความตกใจ เสียงที่แสนจะคุ้นเคย

 
“เอินเอิน!”แจ็คสันรีบทิ้งบุหรี่ในมือก่อนจะเดินเข้าไปในห้องเพื่อดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง
 

 
“ซวยแน่ๆไอ้ยูคเอ๊ย มึงได้เป็นหมีต้มยำแน่ๆ”ยูคยอมบ่นกับตัวเองอย่างหัวเสีย  อุตส่าห์เก็บเป็นความลับมาตั้งนานมาแตกอะไรตอนนี้วะ แบมแบมฆ่าปาดคอเขาแน่

“ยูคย...”อี้เอินที่หิ้วของพะรุงพะรังเดินเข้ามาในตัวห้องก็ได้แต่ยืนอึ้งเมื่อพบว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ยูคยอม 

แจ็คสัน หวัง ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่แจ็คสันคนเดิม  ร่างกายที่ซูบผอม ใบหน้าโทรม ผมหน้าที่ยาวจนปิดคิ้ว ไรหนวดที่สีเข้ม ดูยังไงก็ไม่ใช่แจ็คสันที่เขาเคยรู้จัก

“เอินเอิน..”แจ็คสันยิ้มออกมาราวกับคนบ้า  ดีใจเหลือเกินที่พบกับอี้เอินอีกครั้ง ทั้งๆที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ  อี้เอินรีบวางของที่อยู่ในมือไว้บนโซฟาก่อนจะหันหลังเพื่อกลับบ้าน

“ทำไมต้องหนีกากาด้วย”เสียงของแจ็คสันสั่นเครือ แต่มันก็หนักแน่น
 
“ฉันไม่ได้หนี แต่แค่ไม่มีเรื่องจะคุยด้วยก็เท่านั้น”อี้เอินตอบเสียงเรียบ มือเล็กกำแน่นพยายามข่มความเศร้าโศกในใจที่ไม่เคยจางหายไปไม่ให้แสดงออกมาต่อหน้าคนใจร้ายอย่างแจ็คสันอีก เขาจะไม่อ่อนแอเพราะคนๆนี้เด็ดขาด .. ไม่อีกแล้ว
 
 
“เอินเอินกลับมาอยู่กับกากาไม่ได้เหรอ ..”น้ำเสียงอ้อนวอนของแจ็คสัน หวัง
 

 
“คยอมมี่ ..ของที่แบมแบมฝากซื้อทั้งหมดอยู่ในถุงนะ เรากลับบ้านก่อน ไว้เจอกัน”อี้เอินทำราวกับไม่ได้ยินคำขอร้องของแจ็คสัน ยูคยอมผู้อยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่พยักหน้ารับแบบเนือยๆ  อี้เอินยิ้มแล้วเดินออกไปจากห้องทันที  แจ็คสันทำได้แค่มองร่างบางที่กำลังเดินจากไปด้วยสายตาที่เจ็บปวด 



พระเจ้าครับบทลงโทษนี้มันสาสมกับคนแบบผมแล้วใช่ไหมครับ




“มึงโอเคนะ”ยูคยอมเดินเข้ามาตบไหล่อแจ็คสันเบาๆ เพื่อนของเขากำลังร้องไห้ น้ำตาหยดใสๆเพียงหยดเดียวที่เป็นสัญญาแห่งความเศร้าภายในจิตใจที่มันเริ่มก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่อี้เอินจากเขาไป และมันยังไม่เคยจางหายไป 



 ถ้าเจ้างูน้อยรู้เรื่องนี้ แกตายแน่ๆไอ้หมียักษ์.. เฮ้อออ ยูคยอมได้ทำแค่กรีดร้องในใจ

 
 
>>>>>>>>><<<<<<<<< 


               “หุบปาก”เสียงแบมๆตะหวาดร่างสูงของอีกคนเสียงดังลั่นคณะ

 
               “งูน้อยอ่า ขอโทษ”เจ้าของร่างยักษ์เดินหางลู่หูตกตามแบมแบมมาติดๆ


               นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วตั้งแต่วันที่ไอ้แจ็คสันดันบังเอิญ โลกกลมพรมลิขิตไปเจอกับอี้เอินที่เอาของมาฝากไว้ให้แบมแบม พอคนตัวเล็กรู้เรื่อง ก็เป็นแบบที่เห็น ไม่ยอมพูดกับเขามาสองวัน ข้อหาที่พาแจ็คสันมาห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจนทำให้อี้เอินซึมจนถึงวันนี้

               “เงียบปากไปเลยคิมยูคยอม ถ้านายยังไม่อยากตาย”แบมแบมชี้หน้าอีกคนเป็นการขู่ โมโหไอ้หมีทึ่มนี้จริงๆ ดันสร้างความลำบากใจให้เพื่อนเขาอีกรอบ หลังจากอี้เอินนั่นร่าเริงขึ้น แต่มันก็แค่ไม่ได้ ก็ดันเจอเหตุการณ์บ้าๆเมื่อสองวันก่อนอีก

               “ไม่ใช่ความผิดของไอ้ยูค แบมแบม”แจ็คสันที่เห็นเพื่อนโดนโกรธก็อดจะพูดไม่ได้ เขาไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ไอ้เพื่อนรัก


 
               “แกก็เหมือนกัน เอินเอินมันกำลังตัดใจจะไปรั้งมันทำไมวะ”แบมแบมผลักอกแจ็คสันอย่างแรงจนอีกคนเซ ยูคยอมรีบคว้าร่างเล็กๆของแฟนตัวเองเอาไว้ ตัวเล็กใจโต โอ้โห แฟนผมครับ -*-

               “มึงไม่เป็นกูมึงไม่มีทางรู้สึกหรอก กูมันก็แค่คนโง่ที่รู้ตัวช้าว่าหัวใจกูมันรักเพื่อนมึงขนาดนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้กูก็ไม่ได้อยากทำให้เขาเจ็บ ให้เขาร้องไห้ ... มึงรู้อะไรไหมกูไม่เคยหลับสนิทสักคืนเพราะกูฝันเห็นแต่ภาพที่เขาต้องร้องไห้เพราะคนเลวๆแบบกู”แจ็คสันจ้องหน้าแบมแบมอย่างเอาเรื่อง เขาทนมาตลอดเพราะรู้ว่าตนเป็นคนผิดที่ทำให้เพื่อนรักของคนตัวเล็กเสียใจ แต่แบมแบมกลับทำเหมือนตัวเองรู้ทุกสิ่ง รู้ว่าเขาไม่เจ็บ เขาไม่เสียใจ

               “....”แบมแบมยืนมองหน้าอีกคนนิ่ง ยูคยอมที่ยืนอยู่ข้างๆได้แต่ถอนหายใจหนักๆ เขาคิดอยู่แล้วว่าต้องมีวันที่แจ็คสันมันระเบิดออกมา ในที่สุด วันนี้ก็มาถึง

               “กูขอร้องมึงละกันนะแบมแบม อย่าทำให้เรื่องของกูทำให้พวกมึงต้องมาทะเลาะกันเลย”

               “มึงควรจะกล้ากว่านี้แจ็คสัน มึงคิดหรอว่าคนที่มันรักมึงมากอย่างไอ้เอิน จะหมดรักมึงภายในระยะเวลาแค่สองเดือน มึงรู้ป่ะว่าทุกวันนี้เวลาที่มันแอบมองมึง สายตามันมีความสุขแค่ไหน แววตาของมันมีความหวังทุกครั้งที่เห็นมึง มันรอให้มึงไปง้อ แต่วันนี้กูจะกลับไปบอกมัน..”
 

 
               “ว่าให้เลิกโง่รอคนที่ไม่เอาไหนแบบไอ้ แจ็คสัน หวัง ได้แล้ว”


 

แบมแบมพูดทุกอย่างออกมาอย่างอัดอั้น ไอ้แจ็คสันแม่งคงคิดว่าเขามีความสุขรึไงที่ต้องคอยมองเพื่อนของตัวเองเป็นทุกข์ เป็นไปได้เขาอยากจับสองคนนี้มาขังรวมกันจะได้ปรับความเข้าใจกันซะที แต่เพราะความดื้อรั้นของอี้เอิน และ ความทึ่มเขลาเต่าล้านปีของ แจ็คสัน ทำให้ทุกอย่างมันยากไปหมด
 

“งูน้อย..”ยูคยอมลูบหลังอีกคนอย่างใจเย็น แบมแบมอดทนมามากพอแล้วกับเรื่องของสองคนนี้ แบมแบมกลายเป็นคนกลางที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้แต่กลับต้องมากลัดกลุ้มเพราะความหม่นหมองของเพื่อน
 

 
“แต่เพราะมึงเป็นคนโง่... กูจะช่วยมึงสักครั้ง”
 


 
!!
 




 
“แต่ขอให้มึงรู้ไว้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย”



>>>>>>>>><<<<<<<<<<< 
 

 

               วันนี้อี้เอินมามหาลัยในชุดสบายๆ เพราะยังอยู่ในช่วงปิดเทอม แบมแบมโทรนัดเขามาทำงานของคณะที่เจ้าตัวคงรับมือไม่ไหวเลยต้องเรียกเขามาช่วย และดูเหมือนว่าวันนี้มหาลัยจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีนักศึกษาจากหลายๆคณะที่ต่างก็มาทำหน้าที่ของตัวเอง

               “วันนี้แต่งตัวมาซะฉ่ำเชียวนะคุณอี้เอิน”เสียงแบมแบมที่นั่งตัดกระดาษอยู่เอ่ยแซวเพื่อนรักตัวขาวที่เดินเฉิดฉายมาแต่ไกล เดี๋ยวนี้อี้เอินดูน่ารักขึ้นเป็นกอง ถึงจะผอมลงมากก็เถอะ

               “บ้าอะไรของแก แล้วจินยองกับซอนมิไม่มาช่วยหรอ”

               “ไม่มาม้างเห็นติดแฟนกันหมด”แบมแบมตอบ อี้เอินพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหยิบกระดาษมาช่วยแบมแบมตัด
 

               “เอ้อ ว่าแต่แกเหอะเอินเอิน เมื่อไหร่จะเปิดใจให้คนอื่นสักทีคนต่อคิวรอไปถึงหน้ามอแล้ว”

               “เว่อร์ว่ะ”อี้เอินยู่หน้าใส่เพื่อนรักที่พูดจากโอเวอร์จนน่าเตะ

               “แล้วถ้ามันกลับมา แกจะให้โอกาสมันป่ะ”แบมแบมมองหน้าเพื่อนรักที่ก้มหน้านิ่ง เห็นหัวทุยๆของอีกคนขยับขึ้นลงเบาๆ
 

               “เอ่อๆ ไม่ต้องหน้าแดง มันยังไม่มาง้อเลย”แบมแบมแซวจนอี้เอินเงยหน้าขึ้นมามองอย่างงอนๆ โอ้ย ตั้งแต่แกไม่ตัวติดกับมันแกน่ารักขึ้นเยอะเลยเว้ย จับเอินทำเมียเลยดีป่ะ
 




 
               “งูน้อยคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ”
 
 
               “เสียงมันมาก่อนตัวอีก”แบมแบมบ่นเซ็งๆ ก่อนร่างเล็กจะถูกหมียักษ์โถมตัวเข้าใส่ ก่อนจะเอาหน้าซุกพุงนิ่มๆของแบมๆให้หัวเราะคิกคัก

               “พอๆ มาทำเนี่ย คิคิ”แบมแบมก้มหน้ามองแฟนตัวเองที่ช่วงนี้ชอบมาในโหมดโมเอ้ แบบสิบกะโหลก !

 
               “จะมาชวนไปดูที่มินิคอนเสิตที่คณะ เขาเปิดเรี่ยไรไปค่ายกันอะ”

               “got7มาหรอ”แบมแบมพอได้ฟังก็ตาลุกวาว เพราะคิดว่าศิลปินในดวงใจที่มีเมมเบอร์คนหนึ่งเรียนวิศวะของที่มหาลัยจะมาเปิดคอนเสิต

               “มะเหงกนิ! วงของคณะเฟ้ย! ตาโตเชียวนะ ไม่รู้รึไงว่ามีแฟนขี้หึง”ยูคยอมเปลี่ยนเป็นโหมดขี้หึง ในพริบตาเพราะท่าทางของแฟนตัวเล็กที่ดูสนอกสนใจผู้ชายคนอื่นนอกจากเขา

               “หึงแม้กระทั่งดารา”แบมแบมดึงปากล่างยูคยอมด้วยความหมั่นไส้

               “นี่พวกแก! ฉันยังอยู่ตรงนี้นะรู้ยัง”อี้เอินร้องขัดโลกสวย ดอกไม้บานของ แบมแบมและยูคยอม

               “ฮ่าๆ เห็นอยู่หน่า ไปดูคอนเสิตกันดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาทำ”ยูคยอมกลั้วหัวเราะกับคำแซวของอี้เอิน
 
               “งานยังไม่เสร็จเลย”แบมแบมอิดออด เพราะถ้าไปต้องติดลมแล้วไม่ได้กลับมาทำงานแหงมๆ
 
               “เดี๋ยวกลับมาช่วย พาเพื่อนมาด้วยเอ้า!”ยูคยอมขยั้นคะยอ
              
 
               “ถ้าไม่ช่วยนะตายแน่!”แบมแบมชี้หน้าขู่ ก่อนจะเดินควงแขนยูคยอมข้างหนึ่ง อี้เอินข้างหนึ่งเดินไปดูมินิคอนเสิตที่คณะวิศวะตามคำชวนของยูคยอม


 

 

               “คนเยอะอะ”แบมแบมมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างตื่นตา อี้เอินพยักหน้าเห็นด้วย ยูคยอมก็ยิ้มตาปิดภูมิใจกับผลงานของคณะ  ยืนมองกันได้สักพักยูคยอมก็พาทั้งสองคนไปยืนอยู่ชิดติดขอบเวทีที่เขาใช้เพื่อนสนิทจองไว้ให้ ขืนให้แบมแบมยืนท้ายๆมีหวังโดนกินหัว ก็งูน้อยของเขา ตัวเล็กกระจิ๊ดเดียว

               ยืนคุยกันได้สักพักพิธีกรก็ขึ้นมาประกาศลำดับวงดนตรีจริงๆก็มีแค่ 4 วง เป็นวงของมหาลัยทั้งนั่น แต่ก็ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย

อี้เอิน แบมแบม ยูคยอม ยืนตะโกน เย้วๆกันอยู่หน้าเวทีอย่างสนุกสนาน ตอนนี้ผ่านไป สามวงแล้วเหลือวงสุดท้าย ที่พิธีกรบอกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ของวันนี้ ทั้งสามคนมองไปที่เวทีอย่างใจจดจ่อ รอที่จะถูกเซอร์ไพรส์ไม่ไหวแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนที่รู้สึกประหลาดใจที่สุดจะเป็น ต้วนอี้เอิน  เพราะ นักร้องคนสุดท้ายคือ



แจ็คสัน หวัง


“หวัดดีครับทุกคน”แจ็คสันนั่งบนเก้าอี้สบายๆ ในอ้อมแขนเป็นกีตาร์โปร่งสีน้ำตาลตัวสวย เสียงปรบมือดังระงม เพราะแจ็คสันเป็นหนุ่มฮอตประจำคณะ วันนี้เขาดูโดดเด่นกว่าใคร


แต่สำหรับต้วนอี้เอิน ... แจ็คสัน หวัง ก็โดดเด่นที่สุดอยู่แล้ว


“มามีความสุขร่วมกันนะครับ”แจ็คสันพูดจบก็เริ่มเกลากีตาร์ไปตามถ้วงทำนองที่เตรียมมา แจ็คสันเล่นกีตาร์เก่งขึ้นมาก อี้เอินยิ้มเล็กๆกับภาพตรงหน้า พาลให้เขานึกถึงวันที่สอนแจ็คสันเล่นกีตาร์วันแรก อดีตรูมเมทของเขาเอาแต่ร้องว่า

 
ไม่เล่นแล้ว ไม่เอาแล้ว ดูดินิ้วกากาจะด้านกว่าหน้ากากาแล้วนะ      พอนึกถึงมันก็ตลกดี
 
 


          “ฉันไปรอที่คณะนะ”อี้เอินหันไปกระซิบบอกแบมแบมตอนที่เพลงแรกใกล้จบลง แบมแบมพยักหน้ารับรู้ อี้เอินจึงเดินเลี่ยงออกไป


“จบไปแล้วนะครับ สำหรับเพลงแรก”แจ็คสันยิ้มให้กับผู้ชม

“เพลงต่อไปเป็นเพลงที่ผมอยากมอบให้ใครคนหนึ่ง..”แจ็คสันขยับตัวเล็กน้อย

 


“ลองฟังดูนะ เอินเอิน..”
 

 
อี้เอินที่หันหลังเดินยังไม่พ้นฝูงชนกลับต้องหยุดเดิน



 

คำถามที่เธอถามกันบ่อยบ่อย
ในคนเป็นร้อยทำไมฉันเลือกเธอ
ก็ในชีวิตกี่คนที่ฉันเจอ
เมื่อเดินเข้ามาก็จากไป

ฝากไว้แต่แผลในหัวใจส่วนลึก
ทำอย่างกับฉันไม่มีความรู้สึก
และบ่อยครั้งที่หัวใจแอบนึก
ว่าฉันฝันไปหรือเปล่า ฉันรักเธอ (เพราะ)

เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอมาเติมเต็มชีวิตฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอไม่เคยทำให้ใจนั้นทรมาน
อย่างที่ใครเขาทำ ฉันรักเธอ

ไม่ใช่ว่าจะพบเจอบ่อยบ่อย
ในคนเป็นร้อยหนึ่งคนที่รักจริง
คนที่จะเป็นให้ฉันได้ทุกสิ่ง
คนที่ได้เจอมาก่อนเธอ

ฝากไว้แต่แผลในหัวใจส่วนลึก
ทำอย่างกับฉันไม่มีความรู้สึก
และบ่อยครั้งที่หัวใจแอบนึก
ว่าฉันฝันไปหรือเปล่า ฉันรักเธอ (เพราะ)

เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอมาเติมเต็มชีวิตฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอไม่เคยทำให้ใจนั้นทรมาน
อย่างที่ใครเขาทำ ฉันรักเธอ (เพราะ)

ใจมันรู้ว่าเธอมีฉัน รักเธอ (เพราะ)
ใจมันร้องเรียกแต่เธอนั้น รักเธอ (เพราะ)
ว่าอะไรเหตุผลมากมายเป็นพัน
บอกให้หมดใจฉันยังไงก็ไม่พอ

ฝากไว้แต่แผลในหัวใจส่วนลึก
ทำอย่างกับฉันไม่มีความรู้สึก
และบ่อยครั้งที่หัวใจแอบนึก
ว่าฉันฝันไปหรือเปล่า ฉันรักเธอ (เพราะ)

เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอมาเติมเต็มชีวิตฉัน รักเธอ (เพราะ)
เธอไม่เคยทำให้ใจนั้นทรมาน
อย่างที่ใครเขาทำ ฉันรักเธอ (เพราะ)

แจ็คสันวางกีต้าร์ลงบนเวที โดยที่ยังไม่หยุดร้องเพลง เขาเดินฝ่าฝูงชนลงไปหาร่างโปร่งที่ยืนหันหลังให้เวที เสียงทุ้มเอื้อนเอ่ยไปตามคำร้องและทำนอง ก่อนเขาจะหยุดลงด้านหลังของคนที่เขารัก



ใจมันรู้ว่าเธอมีฉัน รักเธอ (เพราะ)
ใจมันร้องเรียกแต่เธอนั้น รักเธอ (เพราะ)
ว่าอะไรเหตุผลมากมายเป็นพัน
บอกให้หมดใจฉันยังไงก็ไม่พอ

               อี้เอินรู้สึกว่าขอบตาของตัวเองกำลังร้อนผ่าว เขารู้สึกได้ถึงการจับจ้องของผู้คนที่หันมองมายังเขาอย่างสนใจ 

               “หันมาหน่อยสิ”อี้เอินหันไปตามคำขอร้องนั้นอย่างง่ายดาย โดยที่ซ่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาไว้


               “ก่อนหน้านี้กากาทำให้เอินเอินเสียใจมามาก กากาขอโทษนะ”มือหนาเอื้อมไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสแผ่วเบา
 
 
               “เพลงเพราะ..นะ”อี้เอินบอกตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เสียงของแจ็คสันมันเพราะมากจริงๆสำหรับเขา ถึงมันจะเพี้ยนบ้าง ไม่ตรงคีย์บ้าง แต่สิ่งที่แจ็คสันสื่อออกมา ทำให้เขารับรู้ได้ว่า
              
 

 
               แจ็คสัน หวัง ตรงหน้า เป็น แจ็คสัน หวัง ของ ต้วน อี้เอิน แล้วจริงๆ
 

 
               “ดีกันแล้วนะ”แจ็คสันยิ้มกว้างกับคำชมของอี้เอิน

               “อื้อ”อี้เอินพยักหน้าอย่างเขินอาย รวมไปถึงซึ้งใจในเวลาเดียวกัน

               “เป็นแฟนกันแล้วนะ”
 
 
              
               “อื้อ..!! เฮ้ย ไม่ใช่นะ!!”พลาดแล้วอี้เอิน
 

 
               “โหยย ยอมๆไปเหอะ พวกฉันเหนื่อยมากเลยรู้ไหมตอนต่อเวทีน่ะ!”เสียงใสๆของซอนมินที่อี้เอินจำได้ดี เรียกความสนใจจากร่างบางให้หันไปมองด้านหน้าเวที
 
 
               “ฝีมือพวกแก?”อี้เอินมองไปที่เวทีคอนเสิตแบบอึ้งๆ
      “ก็แค่ส่วนหนึ่ง แกควรจะมีความสุขได้แล้วนะอี้เอิน”จินยองเดินเข้าไปหาอี้เอินก่อนจะลูบไหล่เพื่อนรักเบาๆ
 
 
      “แผนฉันโว้ยยย!!”แบมแบมวิ่งมากอดอี้เอินไว้แน่น เสียงหัวเราะใสๆทำเอาน้ำตาของอี้เอินไหลมาอีกรอบ


      “ฮึก..”อี้เอินร้องไห้หนักเข้าไปอีก เพราะความตื้นตัน ทุกคนต่างรุมล้อมแกล้งอี้เอินด้วยความเอ็นดู




                 มีความสุขซะทีนะอี้เอิน





 
>>>>>>>><<<<<<<<<< 


 

“คราวหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะ”เสียงของอี้เอินบอกอีกคนขณะกำลังกินข้าวกันอยู่หน้ามินิมาร์ทใกล้ๆหอพัก

“แบบไหน”แจ็คสันแอ๊บใสไม่รู้ไม่ชี้ เขารู้ว่าอี้เอินอาย เพราะเรื่องวันนี้ของเป็นที่กล่าวขานไปอีกหลายเดือน แต่เขาก็แค่อยากทำให้อี้เอินประทับใจในตัวเขาบ้างก็เท่านั้น 

“ไม่ต้องแกล้งโง่เลย”


“ก็กากามัน แจ็คสันคนโง่ที่ไม่รู้ว่าอี้เอินรัก ฮ่าๆๆ”แจ็คสันแกล้งแหย่อี้เอิน คนขี้เขินยกมือฟาดเต็มแรงตามระดับการเขิน


“รักกากาให้มากนะ”จู่ๆแจ็คสันก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“หื้อ เมาคิมบับหรอ”

“กากาคงจะอยู่ไม่ได้ถ้ารู้ว่าเอินเอินไม่รักกากา”
 
 
“โหย ถ้างั้นนะ ! กากาต้องอายุยืนมากแน่ๆเพราะเอินเอินรักกากามากนะ”อี้เอินพูดเองก็เขินเองแก้มงี้แดงแปร้ด


“รักเอินเอินมากเหมือนกันครับ”



          "รักเอินเอินแล้วนี้ห้ามเลิกรักนะรู้ยัง?"

 
 
ปึก!

 

 
“เฮ้ย!! มานั่งจีบกันอะไรหน้ามาร์ทวะ”แบมแบมวางชามรามยอนขัดบรรยายฟรุ้งฟริ้งของเพื่อน ขอเบ้หน้ากรอกตาเป็นเลขแปดไทย สุดท้ายแล้วแบมแบมขอแฮชแท็กตัวโตว่า
 
 


#อี้เอินคนโง่มีแจ็คสันหวังเป็นของตัวเองซะที
 

 
และ

#ยินดีต้อนรับอี้เอินเข้าสู่สมาคมเมียวิศวกร




 

THE END.




เอ้อ จบเห้อ! ฟิคขัดฟีล 555555555
ตอนแรกนึกว่าจะหาทางลงไม่ได้ แต่มันก็จบแล้วนะ
ปาดน้ำตา เราหวังว่าทุกคนจะชอบ


แจ็คสัน หวัง



นะคะ สปอยฟิคกันใน #ฟิคน้องเอิน โล้ดด
ติดต่อทวงฟิคที่  @jswmt_ นะครับผม